วันนี้ มิสแกรนด์ ขอแนะนำวิธีการเลือกวัสดุหุ้มโซฟา เกียวกับข้อข้องใจว่า ถ้าเราเลือกหุ้มโซฟาเป็นหนังเทียมเราควรเลือก เป็น PVC หรือ PU อันไหนนะที่ดีกว่ากัน….
โซฟาหนัง PU
หนัง PU เป็นหนังที่ผลิตขึ้นเพื่อทดแทนการใช้หนังแท้ที่มีราคาสูง โดยมีการเลียนแบบลักษณะของหนังให้ใกล้เคียงดับหนังแท้มากที่สุด ด้านนอกจะมีพื้นผิวเป็นเงามัน ส่วนด้านในจะมีลักษณะเป็นขนๆ ทำให้เวลาเอาไปใช้ทำโซฟาจะให้ผิวสัมผัสที่นุ่มนิ่มมาก เผลอๆ อาจนิ่มกว่าหนังแท้ด้วยซ้ำไป
ข้อดี
- ราคาถูกมาก หากเทียบกับหนังแท้
- มีลวดลายและสีของหนังให้เลือกหลากหลาย ต้องการสีไหนมีหมด ผิดกับหนังแท้ที่มีสีให้เลือกจำกัด
- ผิวสัมผัสเวลานั่งจะนุ่มนิ่ม สบายตัว บางครั้งอาจนิ่มกว่าหนังแท้ด้วยซ้ำ
- อายุการใช้นานพอใช้ ใช้ได้นานประมาณ 3-5 ปี
- ทำความสะอาดง่าย แค่ใช้น้ำเปล่าเช็ด หรือใช้น้ำยาทำความสะอาดหนังขัดเบาๆ สิ่งสกปรกก็จะหลุดออกอง่ายดายข้อเสีย
ข้อเสีย
- ความทนทาน ระยะการใช้งานสู้หนังแท้ไม่ได้
- ราคาแพงกว่าหนัง PVC ประมาณ 2 เท่าตัว
- ไม่เหมาะกับห้องที่ร้อนอบอ้าว ไม่มีเครื่องปรับอากาศ
- เวลานั่งหรือนอนบนโซฟาเหงื่อจะออกง่ายมาก เพราะหนังมันไม่ดูดซับน้ำ ทำให้เราเหนียวตัวง่ายเวลาที่เจออากาศร้อนๆ
โซฟาหนัง PVC
เวลานั่งหรือนอนบนโซฟาเหงื่อจะออกง่ายมาก เพราะหนังมันไม่ดูดซับน้ำ ทำให้เราเหนียวตัวง่ายเวลาที่เจออากาศร้อนๆ โซฟาหนัง PVC หนัง PVC เป็นหนังเทียมที่ผลิตมาเพื่อใช้ทำโซฟาราคาถูก เป็นหนังที่มีคุณภาพต่ำที่สุดในบรรดาหนังชนิดอื่นๆ รวมไปถึงโซฟาที่ใช้หนัง PVC ทำก็จะเป็นโซฟาที่มีราคาถูกที่สุดด้วยเช่นกัน ซึ่งเราจะเห็นโซฟาหนัง PVC ได้ตามร้านขายเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป ศัพท์ของช่างทำโซฟาจะเรียกโซฟาแบบนี้ว่า “โซฟาโหล” เป็นโซฟาที่ทำง่าย เร็ว แต่ก็พังง่ายและซ่อมยากมาก โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่แนะนำให้ซ่อมโซฟา ที่ทำจาก PVC หรือโซฟาโหล เพราะมันจะไม่คุ้ม ซื้อใหม่ดีกว่ากันเยอะ
ข้อดี
- ถูกที่สุดในบรรดาวัสดุทุกอย่างที่ใช้หุ้มโซฟา ราคาหลาละ 40-80 บาท โซฟา 2 ที่นั่ง
- 1 ตัวจะใช้หนังประมาณ 8-10 หลา ซึ่งถูกมากๆ
- ทำความสะอาดง่าย
- มีสีและลายให้เลือกหลากหลาย
ข้อเสีย
- อายุการใช้งานสั้น ประมาณ 1-2 ปี
- ความทนทานต่ำ ทนน้อยสุด คุณภาพต่ำสุด
- ซ่อมแซมยาก ถ้าช่างซ่อมโซฟาเลือกได้ จะไม่ซ่อมให้เด็ดขาด เขาจะแนะนำให้ซื้อตัวใหม่ทันที (ประมาณว่าซื้อใหม่ง่ายกว่า)